• 23 พฤศจิกายน 2021 09:50:09

---

บทสัมภาษณ์ CEO MERTHIS

แบรนด์ ‘เมอร์ทิซ’ เน้นจุดแข็งคุณภาพผลิตภัณฑ์ ฝ่าการแข่งขันในตลาดและวิกฤติโควิด-19

CR.แนวหน้าออนไลน์

ปัจจุบัน ตลาดเครื่องสำอางของไทยมีการเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการของลูกค้า ที่หลากหลายและให้ความสนใจ สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ดังนั้นการจะทำให้สินค้าเป็นที่นิยมท่ามกลางสินค้าที่อยู่ในตลาดจำนวนมาก เจ้าของสินค้า จำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงการฝ่าวิกฤติโควิด-19 ที่เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ละหนึ่งในตลาดเครื่องสำอางนั้นได้แก่ ชุติญา ศรีสุนทรประภา หรือ คุณญ่าศรีกรรมการผู้จัดการ บริษัทยัวร์บิวตี้ อินโนเวชั่นจำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แบรนด์ “เมอร์ทิซ” (Merthis)

จากจุดเริ่ม ด้วยความเป็นคนรักสวยรักงาม ชอบใช้เครื่องสำอางจากเคาน์เตอร์แบรนด์ และมีความฝันที่จะเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมาตั้งแต่ยังวัยรุ่น จึงพยายามที่จะเดินสู่เส้นทางการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว จนกระทั่งเส้นทางชีวิตเปิดโอกาสในปี 2556 ได้มีโอกาสพบผู้วิจัยผลิตภัณฑ์ดูแลผิว จึงมีการพูดคุยกันทำยังไงให้คนไทยได้ใช้ของราคาที่หลักพัน แต่คุณภาพหลักหมื่น ก็คุยกันด้วย 3 เงื่อนไขว่า 1.โรงงานที่จะผลิตต้องได้มาตรฐาน 2.สามารถสร้างแบรนด์เองได้ และ 3.สามารถสร้างสรรค์วัตถุดิบและสูตรเพื่อตอบโจทย์ของตลาดได้” เมื่อทุกอย่างลงตัวจึงเริ่มลงทุนผลิตสินค้าและทำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ภายในแบรนด์ “เมอร์ทิซ”(Merthis)

ปัจจุบัน “เมอร์ทิซ” มีผลิตภัณฑ์สกินแคร์ 4 ชนิด ซึ่งเน้นการใช้วัตถุดิบและสารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ “Glamorous Serum” ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่เสื่อมสภาพ “Hyaluronic Acid Serum” กรดไฮยาลูโรนิค หรือ ไฮยาลูรอน ผลิตภัณฑ์แก้ไขปัญหาผิวขาดความสมดุลผิวแห้ง เป็นขุย หรือหลุดลอกเป็นแผ่นๆ ด้วยคุณสมบัติกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ดีเยี่ยมสามารถบำรุงผิวพรรณ “Magic SunscreenGel” SPF50 ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดและ “Punica Fruit Whitening Soap” ผลิตภัณฑ์สบู่บำรุงผิว ใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนผสมหลัก กับวิตามินอี ใช้แล้วผิวไม่แห้ง

ส่วนแผนการตลาดในการนำพาธุรกิจให้ก้าวข้ามวิกฤติโควิด-19 เธอบอกว่า บริษัทปรับกลยุทธ์การขาย โดยเน้นไปที่ ตลาดออนไลน์  เช่น การขายผ่านแอพพลิเคชั่น
มูมอลล์ และใช้ตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าเอง แทนการจ้างดาราเพื่อลดค่าใช้จ่ายและประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดได้ ที่สำคัญ ยังให้ความสำคัญกับจุดแข็ง คือ คุณภาพของตัวสินค้า นั่นเอง